ท่องเที่ยวสไตล์พิศาล เป็นการขับรถเที่ยวเพื่อแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่สวยงามทั่วไทย(และต่างประเทศ) โดยเน้นการเที่ยวที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น ภูเขา น้ำตก ถ้ำ ทะเล น้ำพุร้อน ตลอดจนวัดต่างๆที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ การเที่ยวสไตล์พิศาลนี้ นอกจากจะเน้นความสนุก ความเพลิดเพลิน ความสวยงามและเนื้อหาสาระของสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ยังเน้นถึงความปลอดภัย ความสะอาดของสถานที่พักและร้านอาหารอร่อยๆราคาไม่แพง เพื่อให้เป็นการท่องเที่ยวที่ครบถ้วน อิ่มตา อิ่มใจ สบายกายและอิ่มอร่อยท้อง ขณะเดียวกันก็จะให้ข้อมูลการเดินทาง โดยบรรยายถึงลักษณะสภาพถนน ทิวทัศน์และความปลอดภัยของสองข้างทาง ตลอดจนพิกัดของแหล่งท่องเที่ยว พิกัดของร้านอาหารอร่อยและเบอร์โทรศัพท์ เพื่อให้ผู้อ่านที่สนใจจะเที่ยวแต่ขาดข้อมูล สามารถตามรอยการเที่ยวสไตล์พิศาลได้สะดวกขึ้น
พิศาล มโนลีหกุล
ขับรถชมมหกรรมไม้ดอกอาเซียน เที่ยวท่าตอน ขึ้นดอยอ่างขาง(ตอนที่ 2) ออกจากวัดท่าตอนก็กลับมาทานอาหารเย็นที่โรงแรมท่าตอนริเวอร์วิว อากาศหนาวประมาณ 15 องศา แม้โรงแรมนี้จะค่อนข้างเก่า แต่ก็พยายามตกแต่งภายนอกให้ดูดีอย่างที่เห็นในรูป ส่วนภายในห้องพักในโรงแรมไม่ได้มีการปรับปรุงเท่าที่ควรจึงไม่น่าอยู่ ไม่มีตู้เย็น ไม่มีตู้เสื้อผ้า ไม่สมกับราคาคืนละ 1,650 แต่อาหารที่นี่อร่อยไม่แพง วิวแม่น้ำกกสวยมากเพราะโรงแรมนี้ตั้งอยู่บริเวณโค้งน้ำพอดี โรงแรมนี้เหมาะสำหรับทานอาหาร ชมวิวมากกว่าการเข้าพัก ทานอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จก็ออกเดินทางไปเที่ยวน้ำพุร้อนฝางที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ใช้เวลาชั่วโมงเศษๆก็ถึงอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก N 19*57.935' E099.322' อุทยานนี้มีพื้นที่ๆเป็นน้ำพุร้อนถึงประมาณ 10 ไร่ มีบ่อน้ำพุร้อนประมาณ 50 บ่อ อุณหภูมิในบ่อก็อยู่ระหว่าง 30-80 องศา น้ำพุร้อนเกิดขึ้นจากน้ำในชั้นใต้ดินไหลผ่านหินร้อนหลอมเหลวหรือลาวาในบริเวณใกล้เปลือกโลกทำให้น้ำมีอุณหภูมิสูง เกิดแรงดันไหลผ่านตามรอยแยกใต้พื้นดินขึ้นมา ทำให้เกิดเป็นน้ำร้อนไหลพุ่งขึ้น กิจกรรมยอดนิยมของที่นี่ (เช่นเดียวกับน้ำพุร้อนในที่อื่นๆ)คือการต้มไข่ในน้ำแร่ ที่อาบน้ำแร่ส่วนตัว
วิวบริเวณห้องอาบน้ำแร่
น้ำพุร้อนจุดนี้จะพุ่งขึ้นสูง 30-50 เมตรทุก 30 นาที ออกจากน้ำพุร้อนฝาง เราก็ขับรถไปทางไชยปราการเพื่อขึ้นดอยอ่างขาง การขึ้นดอยอ่างขางสามารถขึ้นได้ 2 เส้นทาง คือขึ้นทางเชียงดาวและทางไชยปราการ ถ้ามาจากเชียงใหม่จะเจอทางขึ้นทางเชียงดาวก่อน ทางเส้นนี้ไม่ดี ถนนแคบและขุรขระหลายช่วง แต่ชันน้อยกว่าขึ้นทางไชยปราการ แต่ต้องขับขึ้นเขาประมาณ 79 กิโลเมตรก่อนจะถึงดอยอ่างขาง เลยทางขึ้นทางเชียงดาวมาประมาณ 60-70 กิโลเมตรจะเจอทางขึ้นดอยอ่างขางใกล้อำเภอไชยปราการ นักท่องเที่ยว รถตู้ รถสองแถวส่วนใหญ่จะขึ้นทางด้านนี้ เพราะถนนดี ขับขึ้นเขาเพียง 25-30 กิโลเมตรก็ถึงดอยอ่างขางแล้ว แต่ทางขึ้นด้านนี้จะชันกว่าทางขึ้นด้านเชียงดาว รถเก๋งที่จะขึ้นดอยอ่างขางต้องเป็นรถที่มีกำลังเครื่องยนต์ดี เพราะถนนบางช่วงชันมากและหักศอกขึ้นเขา เราขับรถขึ้นดอยอ่างขางทางด้านไชยปราการมาได้เกือบ 10 กิโลเมตรก็เห็นป้ายอาหารเจ๊เหมยอยู่ที่บ้านยางก็ขับรถเลี้ยวซ้ายตามป้ายร้านเจ๊เหมยไปถึงร้านอาหาร N 19* 48.445' E 099* 06.172' ร้านนี้เป็นร้านอาหารจีนยูนนาน มีสุกี้ยูนนานขึ้นชื่อ ลูกค้าส่วนใหญ่สั่งสุกี้ อาหารใช้ได้ราคาไม่แพง หมู่บ้านยาง
ชาวบ้านยาง ออกจากร้านอาหารเจ๊เหมยก็ขับรถเข้าหมู่บ้านยางเพื่อชม โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูป ศาลเจ้าแม่กวนอิมพระราชทาน และพิพิธภัณท์โรงงานหลวง โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปตั้งขึ้นเพื่อรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากชาวบ้านและชาวเขาในราคายุติธรรม ป้องกันการกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง ช่วยให้ชาวบ้านมีเงินสดหมุนเวียน และพืชผลเสียหายน้อยที่สุด พิพิธภัณท์โรงงานหลวงเกิดขึ้นเนื่องจากเกิดภัยพิบัติน้ำท่วมและดินถล่ม ทำให้โรงงานหลวงสำเร็จรูปเสียหายเกือบทั้งหมด สมเด็จพระเทพฯทรงมีดำริให้ฟื้นฟูโครงการหลวงและทรงให้มีการก่อตั้งพิพิธภัณท์โครงการหลวงขึ้น ภายในพิพิธภัณท์เสนอ ความรู้ผ่านนิทรรศการอันทันสมัย จัดแสดงไว้ในบรรยากาศจำลองของโครงการหลวง ศาลเจ้าแม่กวนอิมพระราชทาน บริเวณศาลเจ้าแม่กวนอิมพระราชทาน ออกจากบ้านยาง เราก็ขับรถขึ้นไปดอยอ่างขาง ระหว่างทางแวะซื้อสตรอเบอรี่ที่ไร่จุ่นจันทร์ N 19* 49.036' E099* 06.072' เห็นฟักน้ำเต้าลูกใหญ่มากเลยแวะถ่ายรูป สตรอเบอรี่ที่นี่อร่อยแต่แพงกว่าร้านข้างทางที่อร่อยเหมือนกัน สตรอเบอรี่อร่อยต้องพันธุ์พระราชทาน 80 เรียกสั้นๆว่าพันธุ์80 หวานอร่อย ระหว่างทางขึ้นดอยอ่างขาง ต้นนางพญาเสือโคร่ง (ซากุระไทย)เริ่มออกดอกสีสวยสองข้างถนน นางพญาเสือโคร่ง ดอกซากุระสีจะสดกว่าดอกนางพญาเสือโคร่ง ดอกซากุระ เราCheck in ที่รีสอร์ทธรรมชาติอ่างขาง N 19* 54.046' E 099* 02.520' ช่วงบ่าย แล้วเข้าไปเที่ยวสวน 80ที่เกษตรหลวงอ่างขาง N 19* 54.609' E099* 02.597' นักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่นี่เยอะมาก หาที่จอดรถลำบาก ส่วนใหญ่มารถตู้ ใครมาเที่ยวดอยอ่างขางจะต้องมาถ่ายรูปที่นี่กันทุกคน นับเป็นจุดเด่นของดอยอ่างขาง สวน 80 สวน 80 ออกจากสวน 80 ก็แวะทานอาหารเย็นแถวตลาดหน้าเกษตรหลวงอ่างขาง เราทานอาหารที่รีสอร์ทใกล้ๆชื่อสุวรรณาภูมิ ร้านนี้วิวดีแต่อาหารไม่ค่อยอร่อย แถวนั้นหาร้านอาหารอร่อยยาก โรงแรมดี มีผ้าห่มไฟฟ้า ตอนกลางคืนอุณหภูมิในห้องประมาณ 10 องศา ข้างนอก 6 องศา ผ้าห่มไฟฟ้าช่วยให้นอนอุ่น แต่ถ้าออกจากผ้าห่มแล้วหนาวมาก ตลาดหน้าเกษตรหลวงอ่างขาง
ทานอาหารเย็นเสร็จก็เข้าที่พัก เราพักอยู่บนเขาสูงสุดของโรงแรม กว่าจะเดินขึ้นถึงห้องพักก็เหนื่อยพอดู (ความจริงเขามีรถส่งถึงที่พัก แต่ห้องพักชั้นบนสุดต้องเดินขึ้นบันไดต่อไปอีกเพราะรถขึ้นไม่ถึง) อากาศหนาวมาก ข้างนอก 6 องศา อุณหภูมิบนยอดหญ้าต่ำสุด 3-3.5องศา ถ่ายจากห้องพัก
ตอนเช้าประมาณ 06.00น ขับรถขึ้นเขาไปที่จุดกางเต๊นท์ขอบด้งเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้น N 19* 54.489' E 099* 03.177' ไปถึงปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวมารออยู่ก่อนแล้วเต็มไปหมด รถตู้จอดแน่นริมถนนสองฝั่ง ที่จุดชมวิวมีชาวเขาขายอาหารและขายของที่ระลึกกันหนาแน่น รอถึง 07.00น ก็ยังมองไม่เห็นพระอาทิตย์เพราะหมอกหนาท้องฟ้าครึ้ม เลยขับรถกลับที่พัก ขณะขับรถลงเขากลับที่พัก เห็นป้ายพระธาตุดอยอ่างขางเก่าๆเล็กๆทางซ้ายมือก็เลยขับตามป้ายไป ถนนขึ้นเขาเป็นทางลูกรัง ชันและค่อนข้างเปลี่ยว เราจอดรถบนเนินเขา N 19* 54.074' E 099* 02.931' แล้วเดินลงบันไดไปไหว้พระธาตุ และถ่ายรูป กลับถึงโรงแรมก็ทานอาหารเช้า อาหารเช้าที่นี่น้อยไม่สมราคาค่าห้องพักคืนละ4,000บาท ทานอาหารเสร็จก็ check outแล้วขับรถลงเขา ระหว่างทางเจอไร่สตรอเบอรี่ก็แวะซื้อ รสชาติหวานอร่อยเพราะเป็นพันธุ์ 80 ราคาถูกกว่ากรุงเทพฯเยอะ ไร่สตรอเบอรี่ ออกจากไร่สตรอเบอรี่ก็ขับรถเข้าเชียงใหม่ แวะไหว้พระพุทธบาทสี่รอยที่แม่ริม จากแม่ริมต้องขับรถขึ้นเขาเกือบ30 กิโลเมตร ถนนเล็กมากและคดเคี้ยวขึ้นเขา ต้องระวังเป็นพิเศษถ้ามีรถสวนมาเพราะถนนแคบ ระยะทาง 30กิโลเมตรแต่ใช้เวลาขับรถถึง45 นาที ในที่สุดก็มาถึงลานจอดรถกว้างใหญ่(น่าจะจอดรถได้เป็นร้อยคัน)บนยอดเขา N 19* 01.055' E 098* 45.782' ประวัติพระพุทธบาทสี่รอย เล่ากันว่า ในสมัยอดีตกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ศาสนาปัจจุบันได้เสด็จมาประทับที่นี่ และได้ทราบด้วยญาณสมาบัติว่ามีพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ 3 องค์ได้มาประทับรอยพระพุทธบาทที่นี่คือ พระพุทธเจ้ากกุสันธะ(รอยใหญ่สุดยาว 12 ศอก) พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ (รอยยาว 9 ศอก)พระพุทธเจ้ากัสสปะ (รอยยาว 7 ศอก)พระพุทธเจ้าองค์ศาสดาปัจจุบันจึงเสด็จไปประทับรอยพระพุทธบาทเป็นรอยที่4 จึงเรียกสถานที่นี้ว่า พระพุทธบาทสี่รอย รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโคตะมะ(ศาสดาปัจจุบัน)เล็กสุดคือยาวเพียง 4 ศอก จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2472 ครูบาศรีวิชัยได้ขึ้นไปกราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย และได้รื้อพระวิหารชั่วคราวที่พระธรรมช้างเผือก(เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ในสมัยก่อน) สร้างไว้ แล้วสร้างวิหารใหม่ครอบพระพุทธบาทสี่รอยไว้จนถึงปัจจุบัน พระพุทธบาทสี่รอยนี้เป็นรอยพระพุทธบาทที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ใครที่ได้มาไหว้พระพุทธบาทสี่รอยเท่ากับได้ไหว้พระพุทธเจ้าสี่องค์
ป้ายบอกทางไปพระพุทธบาทสี่รอยที่พระอุโบสถเก่า ผ่านครูบาศรีวิชัยก่อนถึงพระพุทธบาทสี่รอย พระอุโบสถหลังใหม่สร้างเสร็จแล้วรอทำพิธี พระประธานในวิหารใหม่ วิหารหลังเก่าถ่ายจากระยะไกล ขากลับขับรถลงเขาเจอครอบครัวหมูป่าขวางถนน ต้องรอให้ลูกหมูป่าแอบเข้าข้างทางเสียก่อนจึงขับรถลงเขาต่อไป ออกจากพระพุทธบาทสี่รอยก็แวะไหว้พระที่วัดป่าดาราภิรมย์ซึ่งอยู่หลังที่ว่าการอำเภอแม่ริมและค่ายดารารัศมี (053-862-722) ผมไปเชียงใหม่หลายสิบครั้งไม่เคยรู้จักวัดนี้ เพิ่งมีโอกาสไปไหว้พระที่นี่เป็นครั้งแรก เป็นวัดป่าที่สงบและสวยมาก ตามประวัติวัดกล่าวว่า หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้ออกจาริกธุดงค์มาทางภาคเหนือและได้พำนักอยู่ป่าช้าร้างติดกับสวนเจ้าสบาย พระตำหนักดาราภิรมย์ของพระราชชายาเจ้าดารารัศมีในรัชกาลที่ 5 สถานที่นี้เป็นสถานที่สงบเหมาะสำหรับการบำเพ็ญกรรมฐาน ชาวบ้านในละแวกนี้เห็นก็เกิดศรัทธาช่วยกันสร้างเสนาสนะต่างๆถวาย ต่อมาในปี พ.ศ. 2484 เจ้าหญิงลดาคำ ณ เชียงใหม่ ทายาทของพระราชชายาเจ้าดารารัศมีได้ถวายที่ดังกล่าวซึ่งอยู่ในเขตพระราชฐานพระตำหนักเจ้าดารารัศมีให้แก่วัด ได้ประกาศตั้งเป็นวัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2481 และได้รับพระบรมราชานุญาตยกฐานะเป็นอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ นับเป็นอารามหลวงแห่งที่ 7 ของจังหวัดเชียงใหม่ มีพระบูรพาจารย์หลายรูปมาปฏิบัติธรรมที่นี่ เช่น ท่านอาจารย์ตื้อ หลวงปู่แหวน และท่านอาจารย์สิม เป็นต้น วัดป่าดาราภิรมย์ปัจจุบันเป็นศาสนศึกษาและสถานที่ปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย มณฑปพระจุฬามณีศรีบรมธาตุ (หอแก้ว)
ภายในหอแก้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทรงตัดลูกนิมิตพระอุโบสถในสมัยที่พระราชวินยาภรณ์(จันทร์ กุสโล) เป็นเจ้าอาวาสเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2523 คำสอนต่างๆที่น่าสนใจติดไว้ในวัดป่าดาราภิรมย์